Cinema4D ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักที่สำคัญของ Motion Graphics Designer ที่เข้ามาเติมเต็มจินตนาการ และขยายขอบเขตด้านรูปแบบทางการเคลื่อนไหวและสไตล์ของภาพ จากที่กระบวนการสร้าง 3D Animation เคยเป็นข้อจำกัด แต่ ณ ตอนนี้ได้กลายเป็นอาวุธใหม่ของMotion Graphics Designer ในยุคปัจจุบัน
จุดเปลี่ยนหนึ่งที่สำคัญของ Cinema4D คือ การได้ร่วมกัน R&D กับManvsMachine เป็น Design & Motion Studio พยายามสร้างแนวทางการออกแบบที่แปลกใหม่ ในรูปแบบที่ทันสมัย ส่งผลให้ManvsMachine สามารถขึ้นเวทีไปคว้ารางวัลชนะเลิศสาขา Gold Design จาก Cannes Lions 2017 จากแคมเปญ Nike Air Max
https://vimeo.com/ HYPERLINK “https://vimeo.com/192130017″192130017
Cinema4D X Motion Graphics
ถึงแม้จะมีซอฟต์แวร์ 3D Animation ที่อยู่ในอุตสาหกรรมหลายตัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมาของ Cinema4D ถือว่าตอบโจทย์รูปแบบการทำงานของ Motion Graphics มากที่สุด ด้วยคอนเซ็ปของการทำงานที่ว่า Fast & Easy Workflow จนได้รับความนิยมจาก Motion Designer ทำให้เกิดรูปแบบหรือสไตล์การทำงาน 3D Motion Graphics เกิดขึ้นมามากมาย
3D Motion Graphics VS 3D Animation Workflow
ก่อนหน้านั้นจะมีซอฟต์แวร์อย่าง Maya, 3Ds Max, Softimage หรือLightWave3D แต่ด้วยโครงสร้างและขั้นตอนการทำงาน (Workflow) ที่มีความซับซ้อน เพื่อสร้างผลงานที่มีรายละเอียดสูงอย่างงานCharacter Animation, Visual Effect, Architecture และPrevisualization ซึ่งมีลักษณะของ Workflow ในการทำงานในแต่ละขั้นตอน จะค่อนข้างละเอียด การทำงานในแต่ละขั้นตอนจึงต้องระบุตำแหน่งการทำงานอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น Modeler, Animator, SLR Artist หรือ Compositor เพื่อรับผิดชอบการทำงานในแต่ละส่วนอย่างละเอียด
สำหรับ Motion Graphics ได้นำ 3D Animation เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นส่วนหลักที่เรียกว่า 3D Motion Design ปัจจุบัน Cinema4D กลายเป็นซอฟต์แวร์ที่ Motion Graphics Designer ใช้มากกว่าซอฟต์แวร์ด้าน 3D Animation ตามที่กล่าวไปข้างต้น
Fast & Easy Workflow
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Cinema 4D ได้รับความนิยมก็ คือ Fast & Easy Workflow ที่มีการปรับและการแสดงผลค่าต่าง ๆ เช่น Reflections, Shadows, Ambient, Occlusion, Displacement และ Depth of Field
โดยสามารถแสดงผลตรงใน Viewport ผ่าน OpenGL ของ Cinema 4D ทำให้เห็นภาพ Look สุดท้าย โดยไม่ต้องรอการ Render ที่ยาวนาน และสามารถแสดงตัวอย่างผลงานที่มีคุณภาพสูง สำหรับPreview ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์เห็นได้อย่างรวดเร็ว
https://www.youtube.com/watch?v=3yUMtqDUpKkHYPERLINK “https://www.youtube.com/watch?v=3yUMtqDUpKk&t=606s”& HYPERLINK “https://www.youtube.com/watch?v=3yUMtqDUpKk&t=606s”t=606s
Simon Fiedler อธิบาย Workflow การทำงาน Nike MercurialX ที่ไม่ซับซ้อนเมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์อื่น ๆ
Dynamic & Simulation
จุดเด่นที่สำคัญของ Cinema4D คือ Dynamic & Simulation ที่มีความง่ายในการสร้าง และมีความเร็วในการแสดงผลภาพ โดยนำปัญหาทั้งจาก Maya และ 3Ds Max มาแก้ไขได้อย่างตรงจุด ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ หากจะทำให้ออกมาสวยงาม ถือว่ามีความซับซ้อนและใช้เวลาในการประมวลที่นานกว่าเมื่อเทียบกับ Cinema4D รวมทั้งยังมีจุดเด่นที่สำคัญ คือ Module Tools ช่วยให้สามารถสร้างผลงานรูปแบบต่าง ๆ ได้หลากหลาย เช่น MoGraph, X Particle, Think Particle
SLR (Shading, Lighting, Rendering)
ขั้นตอน SLR เรียกได้ว่า Cinema4D ถือว่ามีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อพิจารณาในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านความซับซ้อน ระยะเวลา และทรัพยากรด้านฮาร์ดแวร์ที่ต้องใช้ หรือเรียกได้ว่า หากต้องการภาพที่สวยเท่ากัน Cinema4D ทำได้ง่ายและเร็วกว่า ทั้งนี้เพราะมี Render Engines อย่างOctane, Arnold, Redshift และ Cycles ที่สามารถแสดงผลแบบ Real Time
จากจุดเด่นที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ Cinema4D ได้กลายเป็นเครื่องหลักที่สำคัญของ Motion Graphics Designer ในยุคปัจจุบัน ซึ่งคงไม่ใช่เพียงเพราะกระบวนการทำงานของ Cinema4D ที่ง่ายและรวดเร็วเท่านั้น แต่กลับเป็นการเพิ่มขีดความสามารถที่ขยายขอบเขตด้านรูปแบบ และสไตล์การทำงานของ Motion Graphics Designer ได้เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น และไม่จำกัดตัวเองที่อยู่ที่ 2D หรือ3D อีกต่อไป
Contributor: Akkaharaphon Dantonglang